ยินดีต้อนรับสู่อาเซียน2558

ยินดีต้อนรับ

.....ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีทุกท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บบล็อกนี้ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการติดต่อ พบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในด้านการศึกษา รวมถึงเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร อันจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนครูและบุคคลที่สนใจทั่วไป หากท่านใดมีข้อเสนอแนะ มีข้อมูล ข่าวสาร หรือซักถามสิ่งใด สามารถตั้งกระทู้ได้ที่เว็บบอร์ดของบล็อกนี้ หรือ ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิคส์คุยกันโดยตรงได้ที่นี่
somdech2012@hotmail.co.th โทรศัพท์หมายเลข 081-9332579
หรือ somdech2012@gmail.com
สมเดช จันทาวุฒิ
ผู้แทนครู อกคศ.สพม.๘ ราชบุรี-กาญจนบุรี

back to school

back to school

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แถลงการณ์ กบข.


แถลงการณ์ กบข.
                คณะทำงานองค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข.แห่งประเทศไทย ได้มาสรุปผลการเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2555 และติดตามการเคลื่อนไหวภายใน 15 วัน ตามที่มีมติร่วมกันก่อนการสลายการชุมนุม ซึ่งมติที่ประชุมในวันนี้ได้ดำเนินการ 2 แนวทางดังนี้
1. ฟ้องด้านกฎหมาย
2. การเคลื่อนไหวต่อไป
ด้านกฎหมาย
                วันนี้(26 เมษายน 2555) ได้มีทีมทนาย 5 ท่าน ได้มาปรึกษาดูช่องทางในการฟ้อง “ถามทวงสิทธิ์” ข้อมูลจากการฟ้องของสมาชิกรวมกันทั้งหมดประมาณ 600 คดี ผลปรากฏว่าเราแพ้คดีหรือศาลยกฟ้องไปแล้วประมาณ 400 คดี ที่ประชุมได้มาดูข้อมูลในการฟ้องต้องเป็นหน่วยงานนิติบุคคล (สมาคมฯ) จะมีน้ำหนักดีกว่าแยกรายบุคคล
-         ฟ้องคณะกรรมการดำเนินการของ กบข. ซึ่งไม่มีอำนาจในการเอากองทุนมาลงทุนในต่างแดน (ต่างประเทศ) เพราะกฎหมาย กฎกระทรวง มิได้กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.กบข.
-         ฟ้องคณะกรรมการกองทุน กบข. ในการประชุมใหญ่ประจำปีทุกปีไม่มีการรับรองงบดุล รายรับ รายจ่าย เพียงแต่แจ้งให้ที่ประชุมทราบก็ถือว่าสมบูรณ์ ซึ่งมีที่เดียวในโลก
-         ฟ้องคณะกรรมการกองทุน กบข. ในการปิดกั้นข่าวสารในการบริหารกองทุนสมาชิกเสียสิทธิ์ กระทบสิทธิ์ สมาชิกขาดความรู้ ขาดการมีส่วนร่วม ขาดหลักธรรมาภิบาล
-         ฟ้องคณะกรรมการบริหาร ไม่มีข้อกฎหมายที่ต้องบังคับข้าราชการบรรจุใหม่ทุกคนต้องเป็นสมาชิก กบข.
ด้านการเคลื่อนไหว
1.             จัดทีมงานออกให้ความรู้ เผยแพร่ “รู้เท่า..รู้ทัน..กบข.” โดยมีการประสานงานกับแกนนำระดับจังหวัดทุกจังหวัด เข้าประชาสัมพันธ์ทุกหน่วยงาน และขอสมทบทุนกองทุน กบข. ขอพบฝ่ายบริหารและผู้ปฏิบัติงาน กำหนดนัดหมายรวมพลังใหญ่ทั้งประเทศ มารวมพลที่ส่วนกลางในเร็วๆนี้
2.             จัดทีมงาน ติดตาม พ.ร.บ. ที่เข้าสภาผู้แทนราษฎรว่าถึงขั้นตอนใดแล้ว (บรรจุวาระที่เท่าใด)
3.            ระหว่างรอเสนอกฎหมายต้องเข้าพบบุคคลสำคัญ ดังนี้
-         ขอพบนายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร) เพราะเป็นกฎหมายการเงิน การบัญชี มีนายกฯคนเดียวต้องตัดสินใจ เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ต้องติดตามและพบนายกฯให้ได้และเร็วที่สุด ฝ่ายการเมืองประสาน
-         จัดตั้งตัวแทนเข้าพบ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ  ชินวัตร เพื่อชี้แจงความเดือดร้อนของข้าราชการ
-         จำนวน 1,200,000 คน ทั่วประเทศ
4.            การประชาสัมพันธ์
-         ต้องเสนอข่าวทางด้านสื่อทุกแขนงอย่างต่อเนื่อง ตามจังหวะ หนักเบา, ตามสถานการณ์ปัจจุบัน
-         ให้สมาชิกทุกคนประสาน ส.ส. , สว. ทั่วประเทศไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ให้สนับสนุนการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. กบข. แจ้งความลำบากของ พ.ร.บ.กบข.พ.ศ.2539 ว่าข้าราชการทั้ง 12 หน่วยงานเดือดร้อนจริงๆ
5.            ยกระดับการต่อสู้
                                การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสมาชิก เร่งประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกทราบอย่างทั่วถึง และกำหนดวัน D –DAY รวมพลังขับเคลื่อนใหญ่ทั้งประเทศไปที่ส่วนกลางที่ทำเนียบรัฐบาล โดยประสานงานไปยังสมาชิก 12 ประเภท ทั่วประเทศ การต้องต่อสู้กันแบบ “อหิงสา” โดยมีสมาชิกประมาณ 50 – 1000 คน นั่งอดข้าวประท้วงโดยจะใช้เวลาจนจะมีชัยชนะ ในครั้งนี้ ให้ส่วนกลางสลับเปลี่ยนกำลังหมุนเวียนกันไป(แจ้งสื่อต่างชาติเข้าร่วมทำข่าว)
                ส่วนต่างจังหวัด ให้กดดันที่หน้าศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด โดยมีแกนนำประสานมายังส่วนกลางต่อไป    “สมาชิกจะได้นอนตาหลับและฝันดีไปชั่วชีวิต”
             ผลสรุป ของการประชุมเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2555 ห้องประชุมมาลากุล อาคาร คุรุสภา
                                                                                        นายสมเดช  จันทาวุฒิ
                                                                                                                ผู้แทนครู สพม.8 (ราชบุรี กาญจนบุรี)
                                                                                E-Mail : somdech2012@hotmail.co.th โทร081-9332579

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

แคว้นโบราณ


"แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก" 

                                ิน้ำตกไทรโยค          "เมืองกาญจน์" หรือ กาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่มีผู้คนนิยม เดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก "เมืองกาญจน์" เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ตั้งของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าเขาลำเนาไพร ถ้ำและน้ำตก
          กาญจนบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 129 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบ่อพลอย อำเภอเลาขวัญ อำเภอพนมทวน อำเภอไทรโยค อำเภอสังขละบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง อำเภอทองผาภูมิ อำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอหนองปรือ และอำเภอห้วยกระเจา ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่า มีทั้งป่าโปร่งและป่าดงดิบ มีแม่น้ำสำคัญสองสาย คือ แม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย ซึ่งไหลมาบรรจบรวมกันเป็นแม่น้ำแม่กลอง ที่บริเวณอำเภอเมืองกาญจนบุรี